เดิมพันกีฬา ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

          เดิมพันกีฬา ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก วันนี้เรานำผลการแข่งขันเมื่อคืน 6 พฤศจิกายน 2556 มาฝาก กลุ่ม อี บาเซิ่ล เปิดบ้านเสมอ สเตอัว บูคาเรสต์ 1 ประตูต่อ 1, เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ ชาลเก้ 04 แบบถล่มทลาย 3 ประตูต่อ 0, กลุ่ม เอฟ ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านพ่ายให้กับ อาร์เซน่อล 0 ประตูต่อ 1, นาโปลี เปิดบ้านเอาชนะ มาร์กเซย ไปแบบสนุก 3 ประตูต่อ 2, กลุ่ม จี เซนิต เปิดบ้านเสมอกับ ปอร์โต้ 1 ประตูต่อ 1, แอตเลติโก้ มาดริด เปิดบ้านถล่มเอาชนะ ออสเตรีย เวียนนา แบบไม่ไว้หน้า 4 ประตูต่อ 0, กลุ่ม เอช อาแจ็กซ์ เปิดบ้านเอาชนะ เซลติก 1 ประตูต่อ 0, บาร์เซโลน่า เปิดบ้านเอาชนะ เอซี มิลาน 3 ประตูต่อ 1 ไปติดตามรายละเอียด รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี เชลซี สิงโตน้ำเงินคราม แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ เอาชนะ ชาลเก้ 04 จากบุนเดสลีกา เยอรมัน 3 ประตูต่อ 0 เกมก่อนหน้านี้ เชลซีทำผลงานได้เยี่ยมโดยบุกไปขย้ำชาลเก้ 3-0 เกมนี้เปลี่ยนผู้เล่นหกคนจากเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดที่ยกทัพไปพ่ายนิวคาส เซิ่ลแบบหมดรูป 0-2 ด้านราชันสีน้ำเงินยังคงมีสภาพทีมเหมือนเดิมที่ปราศจากคลาส แยน ฮุนเตลาร์ , เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน และคีเรียกอส ปาปาโดปูลอสที่เดี้ยงยาว ลูกแรกเกิดขึ้นในนาทีที่ 31 ฮิลเดบรันด์ ไปดึงจังหวะรอเตะเปิดเกมช้าเกินไปทำให้ เอโต้ วิ่งบีบเข้ามายกเท้าบล็อคบอลกระดอนเข้าประตูอย่างง่ายดาย ลูกที่สองเกิดขึ้นในครึ่งหลัง นาทีที่ 54 จากจังหวะสวนกลับ วิลเลี่ยน กระชากจี้ขึ้นมาก่อนไหลไปพื้นที่ว่างในเขตโทษฝั่งขวาให้ เอโต้ กดสวนตัว ฮิลเดบรันด์ บอลพุ่งเสียบโคนเสาสองสุดสวย 2-0 และประตูปิดท้าย นาทีที่ 83 แลมพาร์ด เบิ้ลบอลเร็วทะลุช่องไปให้ เดมบา บา ตัวสำรองหลุดเดี่ยวไปตวัดวอลเลย์ด้วยซ้ายตุงตาข่ายแบบไม่ต้องจับ ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าบ้านครองเกมไว้ได้หมด จบเกม เชลซี เปิดบ้านถล่ม ชาลเก้ 3-0 เก็บสามแต้มนำเป็นจ่าฝูงต่อไป
 
          เดิมพันกีฬา ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอฟ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมเก่ง บุนเดสลีกา เยอรมัน เปิดสนามบีวีบี สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์ พ่ายให้กับ อาร์เซน่อล ปืนใหญ่จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 0 ประตูต่อ 1 เป็นบิ๊กแมตช์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 ซึ่งทั้งสองทีมยักษ์ใหญ่ต่างเก็บไปแล้ว 6 คะแนนเท่ากัน ซึ่งนัดนี้ โยอัคคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมันเข้ามาดูเกมในสนาม เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมดอร์ทมุนด์วัย 46 ปี พ้นโทษแบน 2 นัดกลับมาคุมทีมข้างสนามได้แล้ว นัดนี้เขาส่ง ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้, เฮนริค มคิทาร์ยาน และ มาร์โค รอยส์ นำเกมรุก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ เป็นกองหน้าตัวหลัก ส่วน อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสของอาร์เซน่อลได้ คีแรน กิ๊บบ์ส แบ็คซ้ายหายเจ็บน่อง ลงเล่นได้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า เมซุต โอซิล นำเกมรุก เกมครึ่งแรกเริ่มต้น นักเตะทั้งสองทีมต้องเล่นท่ามกลางฝนที่ตกลงมาโดยตลอด นาที 17 เป็นโอกาสของเจ้าถิ่น มาร์โค รอยส์ โยนบอลจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวาเข้ามาหน้าประตู อารอน แรมซี่ย์ ขึ้นแย่งโหม่งบอลกับ สเวน เบนเดอร์ ก่อนที่บอลกระดอนมาเข้าทาง เนเว่น ซูโบติช ยิงเผาขน บอลถากเสาออกไปไม่กี่หลา ประตูเดียวในเกมนี้เกิดขึ้นในครึ่งหลัง นาทีที่ 62 โทมัส โรซิคกี้ ทำชิ่งให้ เมซุต โอซิล โยนบอลมาหน้าประตู โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ โหม่งไปติด เควิน โกรสครอยท์ซ และมาเข้าหัว อารอน แรมซี่ย์ โขกเผาขนเรียบร้อย
 
          เดิมพันกีฬา ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม จี ทีมตราหมีแห่งลาลีกา สเปน แอตเลติโก มาดริด แกร่งเหลือเกิน หลังเปิดบ้านไล่ถล่ม ออสเตรีย เวียนนา ทีมเก่งจากลีกออสเตรีย ไปแบบเบาะๆ 4 ประตูต่อ 0 เก็บชัยสี่นัดรวด ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลูกแรกเกิดขึ้นในนาทีที่ 11 จากจังหวะที่ โกเก้ เปิดลูกเตะมุมจากทางด้านขวาเข้ามา ราอูล การ์เซีย กระโดดขึ้นโหม่งโดนไม่เต็มบอลมาตกตรงหน้า ชูเอา มิรันด้า ซัดจ่อๆ เข้าไปให้แอต.มาดริด นำก่อน 1-0 นาทีที่ 25 เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ ดีเอโก้ คอสต้า โยนบอลให้ ราอูล การ์เซีย โหม่งเสียบมุมเข้าไปให้ แอตเลติโก้ มาดริด นำห่าง 2-0 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ตราหมีมาได้ประตูที่สามจนได้จากจังหวะที่ ฆวนฟราน ให้บอลไปที่ อาเดรียน โลเปซ ยิงจังหวะแรกไปติดเซฟของ ไฮนซ์ ลินด์เนอร์ นายทวารทีมเยือนมาเข้าทางของ ฟิลิเป้ หลุยส์ กาสมีร์สกี้ ซ้ำจ่อๆ เข้าไปให้ แอต.มาดริด นำสบายๆ 3-0 เมื่อหมดครึ่งแรก นาทีที่ 82 ประตูที่สี่ก็เกิดขึ้น ดีเอโก้ คอสต้า รับบอลจาก ราอูล การ์เซีย ก่อนยิงด้วยขวาบอลพุ่งตุงตาข่ายเต็มแรง แอตเลติโก้ มาดริด หนีห่างเป็น 4-0

          เดิมพันกีฬา ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่มเอช บาร์เซโลน่า ทีมเก่งลาลีกา สเปน เปิดที่สนามเอสตาดิโอ คัมป์ นู เอาชนะ เอซี มิลาน ทีมเก่งจากกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 3 ประตูต่อ 1 "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ได้ตัว เคราร์ด ปิเก้ ปราการหลังคนสำคัญ และ อาเดรียโน่ กอร์เรอา ผ่านความฟิตกลับมาลงสนามได้แล้ว ในแดนกลางวาง ชาบี เอร์นานเดซ กัปตันทีมทำเกมรุกร่วมกับ อันเดรส อิเนียสต้า โดยสามประสานแดนหน้าส่ง อเล็กซิส ซานเชซ, ลิโอเนล เมสซี่ และ เนย์มาร์ ล่าตาข่าย ส่วน "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน ยอดทีมจากอิตาลี ขาดกองหลังอย่าง มัตเตีย เด ชีโย่ และ มาติอัส ซิลเวสเตร ที่เดี้ยงยาว แต่ได้ คริสเตียน อับเบียติ หายเจ็บกลับมาลงเฝ้าเสา แนวรุกต้องขาด สเตฟาน เอล ชาราวี กับ จามเปาโล ปาซซินี่ ที่ไม่ฟิต โดยส่ง โรบินโญ่ ยืนเป็นหน้าเป้า และ กาก้า รับบทหน้าต่ำคอยทำเกมรุกอยู่ด้านหลัง ส่วน มาริโอ บาโลเตลลี่ ดาวยิงตัวเก่งทีมชาติอิตาลี มีชื่อเป็นแค่สำรองเท่านั้นเอง นาทีที่ 30 เจ้าบุญทุ่มมาได้จุดโทษเมื่อทาง อินยาซิโอ อบาเต้ แบ็กขวามิลานไปเหนี่ยว เนย์มาร์ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ทันทีพร้อมให้ใบเหลืองกับ อบาเต้ ไปด้วย จากลูกจุดโทษ ลิโอเนล เมสซี่ สังหารเข้ากลางประตูไปให้บาร์ซ่าออกนำก่อน 1-0 จนได้ เก้านาทีต่อมา เจ้าบ้านมาได้ประตูที่สอง เมื่อ ชาบี เอร์นานเดซ เปิดฟรีคิกเข้ากลางประตู เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ สอดมาโขกเช็ดคนเดียวโล่งๆ เข้าประตูไปให้บาร์ซ่านำ 2-0 ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก ทีมเยือนไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 เมื่อ กาก้า กระชากบอลหลุดไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนเปิดบอลไปโดนขาของ เคราร์ด ปิเก้ กองหลังของบาร์ซ่าเข้าประตูตัวเองไปสงเคราะห์ ให้มิลานไล่มาเป็น 1-2 ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 83 บาร์ซ่า มาได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ เชส ฟาเบรกาส เบิ้ลบอลขึ้นหน้าให้กับ ลิโอเนล เมสซี่ ชิพด้วยซ้ายบอลลอยเสียบใต้คานเข้าไปให้บาร์ซ่า นำห่าง 3-1 เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก ครบ 90 นาที บาร์เซโลน่า เปิดบ้านทุบเอซี มิลาน ไปได้ 3-1 เก็บสามแต้มสำคัญ ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว